RSS

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

all about me

ติดต่อได้ที่

From รูปภาพ Blogger

คติประจำใจ

From รูปภาพ Blogger

ประวัติการศึกษา

From รูปภาพ Blogger

งานอดิเรก

From รูปภาพ Blogger

ประวัติส่วนตัว

From รูปภาพ Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

E-comerce

การค้าขายเชิงพาณิชย์ เป็นการตกลงแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ซึ่งมีกลไกหรือสถานที่ที่สามารถมีการค้าขายที่แน่นอนตายตัว โดยรูปแบบเริ่มต้นของการค้าขายคือ การยื่นหมูยื่นแมว ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการโดยตรงระหว่างผู้ค้า แต่ปัจจุบันนี้ผู้ค้าสมัยใหม่ใช้การเจรจาต่อรองด้วยสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งนั่นก็คือเงินตรา

E-commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นคำศัพท์ที่ดูจะไม่ใช่ของใหม่ในสังคมหรือในแวดวงการค้าขาย การรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดและวิธีการของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต่างหากที่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ผู้ประกอบการรวมถึงผู้บริโภคในส่วนต่างๆ ของสังคมอาจยังเข้าใจไม่ตรงกัน หรือเข้าใจกันไปถึงประสิทธิภาพของอีคอมเมิร์ซคลาดเคลื่อน แตกต่างกันออกไป พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มได้ยินกันบ่อยมากขึ้นทุกวันนี้ หมายถึงการดำเนินกิจการทางพาณิชยกรรมที่ใช้เครื่องมือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย โดยส่วนมากเราเข้าใจว่าเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตมาเป็นจุดเชื่อมการดำเนินธุรกิจให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นแต่จริงๆ แล้ว พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีมานานมากแล้ว เราคงจะไม่ลืมว่าเรามีบัตร ATM ใช้กันมานานมากก่อนอินเทอร์เน็ตจะแพร่หลาย เครื่องโทรศัพท์ หรือเครื่องโทรสารก็นับได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เหมือนกัน และแน่นอนว่าเครื่องหักเงินบัตรเครดิตที่มีทั้งในห้างสรรพสินค้าหรือร้านอาหารต่างๆ ก็เป็นเครื่องมือในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น



1. What is the difference between commerce and electronic commerce? Why is electronic commerce important?

Commerce

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้พุ่งเป้าไปที่อินเทอร์เน็ต เพราะว่าเป็นเครื่องมือชิ้นล่าสุดของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และคงปฏิเสธไม่ได้ครับว่าทุกวันนี้ไม่มีสื่อใดๆ ที่มีพลังและอนาคตเท่าสื่ออินเทอร์เน็ตเพราะบริการบนอินเทอร์เน็ตมีหลายหลายมากไม่ว่า อีเมล์, เว็บไซต์หรือแม้แต่เทคโนโลยีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาท เพิ่มมากขึ้นในการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ตให้มีความรัดกุมเพิ่มขึ้นในไม่ช้า

ทุกวันนี้คุณไม่จำเป็นต้องกังวลในความยุ่งยากในการจัดทำเว็บไซต์อีกแล้ว เพราะมีบริษัทที่รับทำเว็บไซต์ให้มากมายและราคาก็ไม่แพงอีกต่อไปแล้วครับ เนื่องจากภาวะการแข่งขันกันทำตลาดมากขึ้นทุกวันซึ่งเว็บไซต์ของคุณจะสวยงามเพียงไหน หรือหากมีการหักเงินผ่านบัตรเครดิตด้วยคุณต้องไปติดต่อกับธนาคารที่คุณจะใช้บริการด้วยครับโดยทางธนาคารจะคอยช่วยเหลือคุณถึงวิธีการที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถทำธุรกรรมหักบัญชีผ่านบัตรเครดิตได้เป็นอย่างดี



พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร

E-commerce หรือเรียกกันทั่วไปว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทำธุรกรรมหรือธุรกิจ ที่ผ่านช่องอิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทาง เช่น อินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์, วิทยุ, โทรทัศน์, แฟกซ์ เป็นต้น ทั้งในรูปแบบ ข้อความ เสียง และภาพ รวมถึงการขายสินค้าและบริการด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อหาข้อมูลแบบดิจิตอล ถือว่าเป็น E-Commerce ทั้งนั้น ดังนั้นการซื้อขายในรูปแบบ E-Commerce เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่คำว่า E-Commerce เพิ่งมาเป็นที่รู้จักและยอมรับกัน หลังจากมีการค้าขายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น

E-Commerce ในปัจจุบันเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต กับการจำหน่ายสินค้าและบริการโดยสามารถนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้าหรือบริการผ่านทาง อินเทอร์เน็ต สู่คนทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้การดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดรายได้ในระยะเวลาอันสั้น




2. Defince e-business. Is there a difference between e-business and e-commerce?
ทั้ง E-Business และ E- Commerce เป็นรูปแบบการทำการตลาดในรูปแบบหนึ่งโดยใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือดิจิตอลเข้ามาช่วยในการทำการตลาด แต่ในความหมายสำหรับ E-Business หรือ Electronic Business นั้นจะมีความหมายที่ใกล้เคียงกับคำว่า E-Commerce หรือ Electronic Commerce มาก เพียงแต่ว่าความหมายของ E-Business จะมีขอบเขตที่กว้างกว่า โดยหมายถึงการทำกิจกรรมในทุก ๆ ขั้นตอนของกระบวนการธุรกิจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า “ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์” ทั้ง การทำการค้าการซื้อการขาย การติดต่อประสานงาน งานธุรการต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสำนักงาน และการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกระบวนการในการดำเนินการทางธุรกิจที่อาศัยระบบสารสนเทศทาง คอมพิวเตอร์มาใช้ในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (Added Value) ตลอดกิจกรรมทางธุรกิจ (Value Chain) และลดขั้นตอนของการที่ต้องอาศัยแรงงานคน (Manual Process) มาใช้แรงงานจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computerized Process)แทน รวมถึงช่วยให้การดำเนินงานภายใน ภายนอก มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้นอีกด้วย ตัวอย่างเช่นการควบคุมสต๊อคและการชำระเงินให้เป็นระบบอัตโนมัติ ดำเนินการได้รวดเร็ว และทำได้ง่าย ลักษณะการนำ E-Business มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้แก่

* การเชื่อมต่อระหว่างกัน ภายในองค์กร (Intranet)
* การเชื่อมต่อระหว่างกัน กับภายนอกองค์กร (Extranet)
* การเชื่อมต่อระหว่างกัน กับลูกค้าทั่วโลก (Internet)

ในขณะที่ E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะหมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เน้นที่การ “ขาย” เป็นหลักตัวอย่างเช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์, ทางโทรทัศน์, ทางวิทยุ, หรือแม้แต่ทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยทำการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลาในการทำธุรกรรมลงได้ ในบางครั้งมีการตีความหมายของคำว่า E-Commerce กับคำว่า E-Business เป็นคำเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำว่า E-Commerce ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำว่า E-Business โดยคำว่า E-Business จะเป็นคำที่มีความหมายที่กว้างกว่าคำว่า E-Commerce นั่นเอง

ที่มา

www.pawoot.com

E-comerce

คือ การดำเนินธรุกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนต โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถดำเนินการ เลือกสินค้า คำนวนเงิน ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิต ได้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business) สามารถนำเสนอสินค้า ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชำระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้า โดยอัตโนมัติ กระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย Internet

ข้อดี
1.เปิดดำเนินการค้า 24 ชั่วโมง
2.ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3.ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง
5.ง่ายต่อการประชาสัมพัธ์โดย สามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก


ข้อเสีย
1.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2.ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เนต



ประเภทของ E-Commerce

1. การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) กับ Business (ผู้ทำการค้า)
เช่น ลูกค้าต้องการซื้อหนังสือกับร้านค้า


2. การทำการค้าระหว่าง Business (ผู้ทำการค้า) กับ Business ( ผู้ทำการค้า)
เช่น ร้านขายหนังสือค้าต้องการสั่งซื้อหนังสือจากโรงพิมพ์

3. การทำการค้าระหว่าง Business ( ผู้ทำการค้า) กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)
เช่น โรงพิมพ์ต้องการซื้อต้นฉบับจากผู้เขียน


4. การทำการค้าระหว่าง Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) ด้วยกัน
เช่น ผู้บริโภคต้องการขายรถยนต์ของต้นเองให้กับผู้บริโภคท่านที่สนใจ


E-Commerce



ความสัมพันธ์ของระบบการค้าอิเล็กทรอนิค E-Commerce

การดำเนินการธุระกิจการค้าบนอินเทอร์เนตหรือ E-Commerce จำเป็นจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบการค้าบนอินเทอร์เนตหรือ E-Commerce มีดังนี้



ภาพแสดงความสัมพันธ์ของ
ระบบการค้าอิเล็กทรอนิค E-Commerce



BANK
ทำหน้าที่เป็น Payment Gateway คือตรวจ
สอบ และอนุมัติวงเงินของผู้ถือบัตร เมื่อมี
การสั่งซื้อสินค้า และ/หรือบริการ ทาง Internet
ผ่านระบบของธนาคาร และธนาคารจะโอนเงิน
ค่าสินค้า และหรือบริการนั้น ๆ เข้าบัญชีของ
ร้านค้า สมาชิก




TPSP TRANSACTION PROCESSING SERVICE PROVIDER
องค์กรผู้บริหาร และพัฒนาโปรแกรม การ
ประมวลผลการชำระค่าสินค้า และ/หรือบริการ
ผ่าน Internet ให้กับร้านค้า หรือ ISP
ต่าง ๆ ผ่าน Gateway โดย TPSP
สามารถต่อเชื่อมระบบให้กับทุก ๆ ร้านค้า
หรือทุก ๆ ISP และทำการ Internet
ระบบชำระเงินผ่าน Gateway ของธนาคาร




CUSTOMER
ลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้า และ/หรือบริการได้ด้วย
ท บัตรเครดิต
ท บัตรเครดิตวีซ่า หรือมาสเตอร์การ์ดจากทุกสถาบันการเงินทั่วโลก
ท ระบบหักบัญชีเงินฝากของธนาคาร (Direct Debit)



MERCHANT
ร้านค้าที่ต้องการขายสินค้าและ/หรือบริการ
ผ่านระบบ Internet โดยเปิด Home Page บน
Site ของตนเอง หรือ ฝาก Home Page
ไว้กับ Web Site หรือ Virtual Mall ต่าง ๆ
เพื่อขายสินค้าและหรือบริการผ่านระบบของ
ธนาคาร ร้านค้าจะต้องเปิดบัญชี
และสมัครเป็นร้านค้าสมาชิก E-Commerce
กับธนาคารก่อน





ISP INTERNET SERVICE PROVIDER
องค์กรผู้ให้บริการเชื่อมต่อระบบการสื่อสาร
ทาง Internet ให้กับลูกค้า ซึ่งอาจเป็นร้านค้า
หรือผู้ใช้ Internet ทั่วไป โดย ISP รับและจดทะเบียน Domain หรือ จะจัดตั้ง Virtual Mall เพื่อให้ร้านค้านำ Home Page
มาฝากเพื่อขายสินค้า


ระบบความปลอดภัย

1.Encryption เป็นการเข้ารหัสและถอดรหัส
ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำกิจกรรมซื้อขายในเครือข่ายอินเทเอร์เนต
หรือระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ เป็นระบบนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปบนอินเทอร์เนต

2.Authentication เป็นระบบตรวจสอบ ซึ่งจะตรวจสอบว่า
เป็นผู้ได้รับอนุญาตตัวจริงให้เข้าถึงระบบและบริการในชั้นที่กำหนดให้
โดยให้แจ้งข้อมูล Password ของผู้ได้รับอนุญาต

3.Firewalls เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันระหว่าง Hard และ Software โดย Firewalls
จะวางอยู่ระหว่าง เครือข่ายภายในองค์กร (Local Network)
และ เครือข่ายภายนอก (Internet)
เพื่อป้องกันการบุกรุกจากจากบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต
เข้ามาขโมยข้อมูลหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล (Hacker)
โดยผ่านทางเครือข่ายภายนอก (Internet)

4.PKI System (Public Infrastructure) เป็นกลุ่มข้อ Security Services
ซึ่งปกติจัดให้โดย Certificate (CA),
Authentication, Encryption และ Certificate Management
ใช้เทคโนโลยีการเข้าและถอดรหัสโดยกุณแจสาธารณะ



ที่มา
www.ecomerce.com

E-comerce


ความหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์ และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้

ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย

รูปแบบการทำธุรกิจ

1. ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น

2. ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3. ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต




ความสำคัญของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งค่าเช่าพื้นที่ขายหรือการลงทุนในการสร้างร้าน ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนของธุรกิจต่ำลง
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. มีช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม เนื่องจากต้นทุนการผลิตและการจำหน่ายต่ำกว่า ทำให้ได้กำไรจากการขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า อาทิ ชื่อ ที่อยู่ พฤติกรรม การบริโภค สินค้าที่ต้องการ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการทำวิจัยและวางแผนการตลาด เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร ในเรื่องของความทันสมัยและเป็นโอกาสที่จะทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก
10.สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย



ข้อดีของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. สามารถเข้าหาลูกค้าได้โดยตรง เสียค่าใช้จ่ายต่ำ เนื่องจากต้องผ่านคนกลาง
2. สามารถขายสินค้าในราคาที่ต่ำลง เนื่องจากต้นทุนต่ำลง
3. ทำให้สามารถขยายตลาดได้กว้างและเร็วขึ้น
4. เหมาะสำหรับธุรกิจที่เป็นสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าใหม่หรือยังไม่เป็นที่รู้จักทั่วไป

วิธีการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. การฝากสินค้าขายของบน Shopping Mall (เป็นศูนย์รวมการขายสินค้าขนาดใหญ่บนอินเตอร์เน็ตคล้ายกับศูนย์การค้า) เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีเงินลงทุนน้อย และสินค้าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไป ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก เสียค่าใช้จ่ายน้อย ไม่ต้องประชาสัมพันธ์หรือ Update ข้อมูลต่างๆ โดยวิธีการลงโฆษณา ติดประกาศขาย หรือการประมูลสินค้า ทั้งในรูปแบบของการขายส่งและขายปลีก
2. สร้าง web Site ของตัวเอง เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีเงินลงทุน และมีเครื่องหมายการค้าของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า และต้อง Update ข้อมูลต่างๆ อยู่ตลอดเวลา แต่สามารถจัดหน้าร้าน และให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าเพื่อช่วยการตัดสินใจของผู้ซื้อได้มากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการคิดค่าบริการในการลงโฆษณาสินค้า

ที่มา

www.learners.in.th

วันครูแห่งชาติ


วันครู 16 มกราคม

ช่วงนี้ก็ใกล้ๆวันครูแล้ว เลยนำประวัติความเป็นมาของวันสำคัญวันนี้มาฝากกันนะคะ


ประวัติครู หมายถึง ผู้อบรมสั่งสอน; ผู้ถ่ายทอดความรู้ ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
ของสังคมและประเทศชาติ
ความเป็นมา
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่
กระทรวงศึกษา ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วย
เหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู



ด้วยเหตุนี้ในทุก ๆ ปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปี
ที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัยสถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุม
สามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา


ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา
กิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่าง
ในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครู
ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคน
คงจะไม่ขัดข้อง”



จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความคิดเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่น ๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป
โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดี
ระหว่างครูกันประชาชน



ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ ให้วันที่ ๑๖ มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู” โดยเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นวันครูและให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้


การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู
และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ



การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลาในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงาน
วันครูจะมีกิจกรรม ๓ ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้


กิจกรรมทางศาสนา พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น
ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่งประเทศ สำหรับในส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงาน
วันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วยบุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้
ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอก็ได้




รูปแบบการจัดงานในส่วนกลาง (หอประชุมคุรุสภา) พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการจัดงานวันครู พร้อมด้วยครูอาจารย์และประชาชนร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ จำนวน ๑,๐๐๐ รูป หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมงานจะเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี เสร็จแล้วพิธีบูชาบูรพาจารย์โดยครูอาวุโสนอกประจำการจะเป็นผู้กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงประคุณบูรพาจารย์ ว่าดังนี้



คาถา ปาเจราจริยา โหนติ คุณุตตรานุสาสกา (วสันตดิลกฉันท์)
ข้าขอประนมกรกระพุ่ม
กราบคุณอดุลคุรุประทาน
สิ่งสมอุดมคติประพฤติ
ครูชี้วิถีทุษอนันต์
ให้เรืองและเปรื่องปริวิชาน
ท่านแจ้งแสดงนิติบวร
โอบเอื้อและเจือคุณวิจิตร
ไปเบื่อก็เพื่อดรุณชาญ
บาปบุญก็สุนทรแถลง
เพื่อศิษย์สฤษฎ์คติจรัล
ปวงข้าประดานิกรศิษ
ด้วยสัตย์สะพัดกมลนำ
โปรดอวยพรสุพิธพรอเนก
ส่งเสริมเฉลิมพหุลสุน –

อภิวาทนาการ
หิตเทิดทวีสรร
นรยึดประคองธรรม์
อนุสาสน์ประภาษสอน
นะตระการสถาพร
ดนุยลยุบลสาร
ทะนุศิษย์นิรันดร์กาล
ลุฉลาดประสาทสรรพ์
ธุระแจงประจักษ์ครัน
มนเทิดผดุงธรรม
(ษ) ยะคิดระลึกคำ
อนุสรณ์เผดียงคุณ
อดิเรกเพราะแรงบุญ
ทรศิษย์เสมอเทอญฯ




จรรยามารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู 1.เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2.ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น
3.ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้
4.รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู
5.ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา
6 .ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ
7 .ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการโดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตนและไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป พื่อประโยชน์ส่วนตน
8 .ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
9 .สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา
10.รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน



ความสำคัญของครู
ในชีวิตของคนเราถือว่า บิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต ให้ความรัก ให้ความเมตตา มีความห่วงใย และเสียสละเพื่อลูก นอกจาก บิดามารดา แล้ว ก็มีครูเป็นผู้มีพระคุณคล้าย บิดามารดา คือ เป็นผู้อบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ รวมทั้งให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน นับได้ว่าครูเป็นผู้เสียสละที่ไม่แพ้บุพการี

ครูจึงนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการให้การศึกษาเรียนรู้ ทั้งในด้านวิชาการ และประสบการณ์ ตลอดเป็นผู้มีความเสียสละ ดูแลเอาใจใส่ สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเอง รวมทั้งนำพาสังคมประเทศชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ฉะนั้นวันที่ 6 ตุลาคม จึงได้เป็นวันครูสากล เพื่อคนที่เป็นครูทั่วโลกที่เสียสละนำพาเราทุก ๆคน ไปถึงฝั่งฝันนั่นเอง

ประวัติความเป็นมา

วันครู ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภา เป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครู และครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้ และความสามัคคีของครู

ทุกปีคุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และซักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา เป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

พ.ศ.2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า




"ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมีสักวันหนนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อวันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง"

จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ที่ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก ในปีเดียวกันที่ให้มีวันครูเพี่อเสนอคณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีธรรมระหว่างครูและพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน

คณะมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น "วันครู" โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2488 เป็นวันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว



งานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญ คือ หนังประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ

บทสวดเคารพครู

(สวดนำ) ปาเจราจริยาโหนฺติ (รับพร้อมกัน) คุณุตฺตรานุสาสกา

ปญฺญาวุฑฺฒิกเร เต เต ทินฺโนวาเท นมามิหํ

(สวดทำนองสรภัญญะ)
(สวดนำ) อนึ่งข้าคำนับน้อม (รับพร้อมกัน) ต่อพระครูผู้การุณย์

โอบเอื้อและเจือจุน อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์

ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน

ชี้แจงและแบ่งปัน ขยายอรรถให้ชัดเจน

จิตมากด้วยเมตตา และกรุณา บ เอียงเอน

เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์ ให้ฉลาดและแหลมคม

ขจัดเขลาบรรเทาโม หะจิตมืดที่งุนงม

กังขา ณ อารมณ์ ก็สว่างกระจ่างใจ

คุณส่วนนี้ควรนับ ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร

ควรนึกและตรึกใน จิตน้อมนิยมชม

(กราบ)

การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในวันครู
เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในบทบาท และหน้าที่ของครู ตลอดจนจรรยามารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีครู และบทบาทหน้าที่ของศิษย์ที่พึงปฏิบัติต่อครู คลอดจนการจัดกิจรรมได้เหมาะสม และมีประสิทธภาพ

กิจกรรมวันครู

การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลาในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

1. กิจกรรมทางศาสนา

2. พิธีรำลึกพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตนการกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์

3. กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬา หรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น





ปัจจุบันการจัดงานวันครู ได้มีการกำหนดให้จัดพร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับส่วนกลางจัดที่หอประชุมคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการจัดงานวันครู ซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ประกอบด้วย บุคคลหลายอาชีพร่วมกันเป็นผู้จัด สำหรับส่วนภูมิภาคมอบให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ โดยตั้งคณะกรรมการจัดงานวันครูขึ้นเช่นเดียวกับ ส่วนกลางจะจัดรวมกันที่จังหวัดหรือแต่ละอำเภอ

รูปแบบการจัดงานในส่วนกลาง (หอประชุมคุรุสภา) พิธีจะเริ่มตั้งแต่เช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภา คณะกรรมการอำนวยคุรุสภา คณะกรรมการการจัดงานวันครูพร้อมด้วยครูอาจารย์และประชาชนร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์จำนวน 1,000 รูป

หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมงานจะเข้าร่วมพิธีในหอประชุมคุรุสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในงาน ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ นายกรัฐมนตรีบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ให้ศีล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรีกล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์รำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์



จากนั้นประธานจัดงานวันครู จะเชิญผู้ร่วมประชุมยืนสงบ 1 นาที เพื่อรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อด้วยครูอาวุโสในประจำการ ผู้นำร่วมประชุมกล่าวปฏิญาณ

คำปฏิญาณตนของครู

ข้อ 1 ข้าจะบำเพ็ญตน ให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นครู

ข้อ 2 ข้าจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ

ข้อ 3 ข้าจะรักษาชื่อเสียงของคณะครู และบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม

จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคล แล้วต่อด้วยนายกรัฐมนตรี มอบรางวัลครูดีเด่นประจำปี มอบของที่ระลึกให้ครูอาวุโสนอก และในประจำการ สุดท้ายกล่าวปราศรัยกับคณะครูที่มาประชุม



มารยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู

1. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ

2. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น

3. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตน ให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานไม่ได้

4. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใด ๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู

5. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา

6. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อมนุษย์ชาติ

7. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการ โดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน และไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไป เพื่อประโยชน์ส่วนตน

8. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ

9. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา

10. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน


รายชื่อประเทศที่มีวันครู
ประเทศที่มีวันครูที่ไม่ใช่วันหยุด

- อินเดีย วันครูตรงกับวันที่ 5 กันยายน
- มาเลเซีย วันครูตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม
- ตุรกี วันครูตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายน

ประเทศที่มีวันครูเป็นวันหยุด - แอลเบเนีย วันครูตรงกับวันที่ 7 มีนาคม
- จีน วันครูตรงกับวันที่ 10 กันยายน
- สาธารณรัฐเช็ก วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
- อิหร่าน วันครูตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม
- ละตินอเมริกา วันครูตรงกับวันที่ 11 กันยายน
- โปแลนด์ วันครูตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม
- รัสเซีย วันครูตรงกับวันที่ 5 ตุลาคม
- สิงคโปร์ วันครูตรงกับวันที่ 1 กันยายน
- สโลวีเนีย วันครูตรงกับวันที่ 28 มีนาคม
- เกาหลีใต้ วันครูตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม
- ไต้หวัน วันครูตรงกับวันที่ 28 กันยายน
- ไทย วันครูตรงกับวันที่ 16 มกราคม
- สหรัฐอเมริกา วันอังคารในสัปดาห์แรกที่เต็ม 7 วันในเดือนพฤษภาคม
- เวียดนาม วันครูตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน



ครูเทศบาล กว่า 500 คนร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เนื่องในวันครูแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 53 เวลา 08.30 น. ที่บริเวณสวนขวัญเมือง เทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา เนื่องในวันครูแห่งชาติ 16 มกราคม 2553 โดยมีบรรดาครูในสังกัดโรงเรียนเทศบาล 1 ถึง โรงเรียนเทศบาล 6 เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน

โดยกิจกรรมได้มีการปลูกต้นไม้ และ ปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่บึงสวนขวัญเมือง เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับบุคลากรครูที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาของครูในสังกัดโรงเรียนเทศบาล ที่สนามกีฬาศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาในช่วงบ่าย

สำหรับกิจกรรมวันครูของ จ.ยะลา ในวันที่ 16 มกราคม 53 ในช่วงเช้าจะมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และกิจกรรมรำลึกพระคุณครู ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา และในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา

นายอำพล พลศร ผอ.สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันครูนี้ เพื่อส่งเสริมให้ครูเกิดความรัก ความสามัคคี และต้องการให้ครูได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และมีความตระหนักถึงวิชาชีพของตนในการพัฒนาเด็กให้มากยิ่งขึ้น สำหรับกิจกรรมในช่วงเช้า จะมีการบำเพ็ญประโยชน์ ปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา และในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมนันทนาการ การเดินขบวนพาเลต จาก ร.ร.เทศบาล 3 ไปยังศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา และจะทำพิธีเปิดงานวันครู ประจำปี 2553 พร้อมทั้ง การแข่งขันกีฬาของคณะครู ด้วย

ผอ.สำนักการศึกษาเทศบาลนครยะลา กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ครูสังกัดเทศบาลทุกคน อยากเรียกร้องจากทางรัฐบาล จะเป็นเรื่องของสวัสดิภาพของคุณครูท้องถิ่น ที่ผ่านมาครูท้องถิ่นได้รับเพียงเล็กน้อย อยากจะให้ดูแลเรื่องการปรับเลื่อนยศ วิทยฐานะของครู ซึ่งตนเองเชื่อว่าหากครูได้วิทยาฐานะที่สูงขึ้น จะทำให้สามารถพัฒนาเด็กชาวยะลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดความสันติสุขได้


ที่มา
www.nationchannel.com

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

สวัสดีปีใหม่

ขอนแก่น ได้จัดงาน เฉลิมฉลองศักราชใหม่ขึ้น ในปีนี้จัดยิ่งใหญ่มักมาก โดยจัดที่บริเวณ สี่แยก ประตูเมือง ระหว่าง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ติดกับ เซนทรัลพลาซ่า.........

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

พวกเราชาวขอนแก่นได้สัมผัสบรรยากาศ รถติดเหมือนชาว กทม.ยังไงยังงั้นเลยค่ะ.......ทันหมัยมาก
ปิดถนนตั้งแต่แยก เซนทรัลพลาซ่า ไปถึง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง......
ผู้เขียนได้ตามมาเก็บบรรยากาศให้ทุกท่านได้ชม ในช่วงหัวค่ำตอนพิธีเปิดงานเมื่อเก็บภาพเสร็จแล้วต้องรีบกลับบ้าน ก่อนที่ผู้คนจะหลั่งไหล..เพื่อมา count down มากกว่านี้ค่ะ............
From ไ ปงานเค้าดาวกัน


From ไ ปงานเค้าดาวกัน
เดินทอดน่องผ่าน ศาลเจ้าพ่อไปเรื่อยๆ ถึงทางแยกก่อนข้ามทางรถไฟไปที่เซนทรัล

บรรยากาศสวยดีขอนั่งพักก่อน.....อิอิ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

เวทีกลาง อยู่ติดกับประตูเมือง..คนเริ่มหนาตาขึ้นค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

จอทีวีใหญ่ด้านข้างเซนทรัล โชว์บรรยากาศ บนเวที
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ด้านข้างมีซุ้มสวยงามให้ผู้คนได้เก็บภาพสวย
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ส่วนด้านบนมีไฟโยงประดับเป็นแพ ระหว่างด้านบนถนนสองฟากสวยงามมากค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

น้ำพุเจ็ดสี และสวนดอกไม้ ถูกเนรมิตรขึ้นมากลางสี่แยกใหญ่สวยงามมักมากขอบอก ค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

เดินข้ามมาเก็บภาพอีกซีกของบริเวณงาน ประดับไฟเป็นแพยาว อยู่ด้านบน ของถนนเช่นเดียวกันค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ล่าง เดินมาเก็บภาพน้ำพุไกลๆ ตรงด้านข้างห้างค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ล่าง บรรยากาศที่บริเวณเซนทรัลด้านข้างฝั่งทางด้านศาลหลักเมือง ต้นคริสมาส สูงใหญ่ประดับไฟสวยงามมากๆค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

From ไ ปงานเค้าดาวกัน
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

เราไปกันสองคน (สองพี่น้อง สองนามสกุล) เพื่อไปเก็บภาพบรรยากาศ ก็เลยมีภาพเราสองคนมากหน่อย..คงไม่ว่ากันนะคะ.....อิอิ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ได้เวลาเดินกลับมาที่รถ...นั่งพักซะหน่อย จอดไกลมากเพราะถนนปิดค่ะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน
From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ปีใหม่นี้ขอให้ประชาชนชาวไทย ทุกๆคน มีสุขภาพที่แข็งแรง เงินทองไหลมาเทมา........ร่ำรวยๆๆๆๆ..สาธุ
วันนี้ผู้เขียนมาเก็บภาพบรรยากาศในทางโลกมาให้ชมบ้างแล้ว
ก็ยังได้ไปเก็บภาพบรรยากาศในการปฎิบัติธรรมมาให้ชมต่ออีกในบันทึกหน้า รอติดตามนะคะ
From ไ ปงานเค้าดาวกัน




ที่มา
http://gotoknow.org/blog/pra-rt/324473

สวัสดีปีใหม่

From ไ ปงานเค้าดาวกัน


เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อาจมีหลายคนเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือออกเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต หรือหาดใหญ่ ต่างก็มีการจัดงานเคาน์ดาวน์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่

สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ แต่ไม่อยากจะออกไปไหนไกลๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้ดูเหมือนว่าสีสันจะขาดหายไปบ้าง อันเนื่องมาจากสถาวะเศรษฐกิจและวิกฤตการเมือง ที่ทำให้ไม่ค่อยมีอีเวนท์ใหญ่ๆ แข่งกันเหมือนเช่นทุกปี

เช่นเดียวกับฟรีทีวีที่ส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้จะมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศนับถอยหลังอย่างยิ่งใหญ่ ในปีนี้เหลือเพียงแค่ช่อง 7 กับโมเดิร์นไนน์ทีวี ส่วนช่อง 3 และช่อง 5 ยังคงเป็นรายการปกติของสถานี ก่อนที่จะเจียดเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 30 นาทีเพื่อเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองเท่านั้น

วันนี้เราจึงขอนำเสนอลายแทงที่เที่ยวปีใหม่ ชนิดที่ว่า “ใหญ่จริงอะไรจริง” มาให้ แม้ตัวเลือกจะเหลือน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความบันเทิงแบบคับแก้วเช่นเคย
From ไ ปงานเค้าดาวกัน


HANDS 2010 งานใหญ่ใจกลางเมือง

เทศกาล HANDS Bangkok Countdown 2010 ในปีนี้ยังจัดขึ้นที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ดเช่นเคย กินพื้นที่เต็มถนนราชดำริ ได้รับการเรียกขานว่า เป็นงานเคาท์ดาวน์งานเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อาจเรียกได้ว่าเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองที่ดีที่สุดงานหนึ่งในเอเชีย จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 01.00 น. ของวันใหม่ (และปีใหม่)

จุดขายของงานนี้จะเป็นการเปิดตัวแลนด์มาร์คสุดยิ่งใหญ่รูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ “The HANDS Tower” LED Screen แนวตั้งที่มีขนาดสูงกว่า 20 เมตร สัญลักษณ์แห่งการนับเวลาถอยหลังเข้าสู่ปี 2010 เป็นครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมี Happy Town เมืองแห่งความสุขพร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ Starlight Garden จุดรวมความสุขพร้อมเก็บภาพประทับใจ


From ไ ปงานเค้าดาวกัน

สำหรับการแสดงบนเวที จะมีคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ กอล์ฟ-ไมค์, ลิปตา, แสตมป์, แทททู คัลเลอร์, สครับบ์, แก้ม, รุจน์ เดอะสตาร์, ไอซ์ ศรัณยู, ปาล์มมี่ และโจอี้ บอย ซึ่งช่อง 7 จะถ่ายทอดสดบนเวทีในเวลา 22.30 น. เป็นต้นไป และในช่วงของการก้าวสู่ศักราชใหม่ Firework พลุชุดพิเศษกว่า 300 นัด ที่อัศจรรย์และตระการตา

อย่างไรก็ดี จากกระแสความหวาดวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นปี-สองปีก่อน ก็ไม่ควรจะตื่นตกใจ เวลาไปไหนมาไหนก็ระมัดระวังไว้เป็นดี สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สงสัยว่าใครทำอะไรไม่ชอบมาพากลก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในงานได้ทันที

ซึ่งการรักษาความปลอดภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลอย่างเต็มกำลัง


From ไ ปงานเค้าดาวกัน

Pattaya Countdown 2010 นับถอยหลังใกล้กรุงเทพฯ

เมืองพัทยากลายเป็นสถานที่เฉลิมฉลองอีกแห่งหนึ่ง สำหรับการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังการจัดงาน Pattaya Countdown 2009 ในปีที่แล้วประสบความสำเร็จด้วยนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงานมากกว่า 400,000 คน และได้รับการรายงานสู่สายตาชาวโลกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNN มาแล้ว

งาน Pattaya Coutdown 2010 ถูกจัดขึ้นอีกครั้ง โดยมีเมืองพัทยาเป็นเจ้าภาพ ด้วยการเนรมิตแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จัดงานเทศกาลปีใหม่ตลอด 7 วัน 7 คืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกับส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของพัทยาและประเทศไทยให้มีประวัติศาสตร์อันน่าจดจำร่วมกัน รวมถึงต้องการบรรจุให้งานนี้อยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยวโลกและได้รับการรายงานจากสื่อต่างชาติไปสู่สายตาผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกด้วย

From ไ ปงานเค้าดาวกัน

ไฮไลท์สำคัญตลอด 7 วัน 7 คืน ใน Pattaya Countdown 2010 ก็คือการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และจะได้ชมพลุไฟที่มีความสวยงาม และยิ่งใหญ่กว่า 20,000 ลูกทุกวันในเวลา 00.00 น. ของทุกคืน ท่ามกลางฉากหลังเป็นเขาพัทยา

คืนนี้ (31 ธ.ค.) จะเป็นไฮไลท์สำคัญ ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวี ตั้งแต่ 22.30 น. เช่นกัน โดยมีคอนเสิร์ตจากบอดี้แสลม แฮงก์แมน บุดด้า เบลส โซคลู และเดอะสตาร์ 5

นอกจากนี้ยังมีการออกร้านขายสินค้าหลากหลายชนิด รวมถึงอาหารที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม โดยคาดว่าคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 500,000 คน นำรายได้สู่เมืองพัทยามากกว่า 500 ล้านบาทด้วย

เรียกได้ว่านอกจากจะได้สนุกสนานและตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองพัทยาให้กลับมาคึกคักอีกทางหนึ่งด้วย

From ไ ปงานเค้าดาวกัน


การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองพัทยาสะดวกสบาย มีรถปรับอากาศจากสถานีขนส่งเอกมัย หมอชิต 2 และสายใต้ใหม่ ของบริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด (รายละเอียด http://www.pattayabus.com/th/) หลังเคาน์ดาวน์จะไปเดินชิลล์...ชิลล์... ก่อนแล้วค่อยกลับบ้านก็ได้ รถเที่ยวแรกจะออกจากสถานีขนส่งพัทยาเหนือ 04.30 น. (ยกเว้นปลายทางสายใต้ใหม่ รถออก 06.00 น.)

สำหรับรถตู้ ขอแนะนำรถตู้ร่วม บขส. (ม2จ) เจ้าใหม่ สายกรุงเทพฯ-พัทยา เป็นรถที่ได้สัมปทานถูกต้องตามกฏหมาย ค่าโดยสารราคาประหยัดเพียง 97 บาท จุดจอดบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเซ็นเตอร์วัน (ข้างร้านเฟรชมาร์ท) ท่ารถที่พัทยาจะอยู่บริเวณพัทยาใต้ ตรงข้ามหัวมุม Walking Street และตรงข้ามตึกคอมพัทยา รถออกเที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 22.00 น. รายละเอียดคลิกที่ http://www.pattayavan.com
From ไ ปงานเค้าดาวกัน



ที่มา
http://gotoknow.org/blog/pra-rt/324473